น้องท้ายแถว: วิช คะ
ไกด์ดล: โอเค น้องวิชอยู่ท้ายแถวนะครับ ทุกคนทราบไว้ตามนี้ หากเข้าไปข้างในแล้ว ก็ต้องรอให้ครบ น้องวิชต้องตะโกนบอกพี่ไกด์ด้านในด้วยนะครับ เวลาเค้าขานเรียกชื่อ
น้องวิช: ค่ะ
ไกด์ดล: โอเค ตอนนี้ตามผมมาได้เลยครับ เดินชิดขวาเรียงแถวตอนหนึ่งนะครับ มือถือไม้เท้าไม่ต้องเอาเชือกคล้องแขนนะครับ จะได้สลับไปมาได้สะดวก ถ้าต้องการ มือขวาตอนนี้ก็คลำผนังด้านขวาไว้นะครับ ตอนนี้เราจะเริ่มมืดขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมองไม่เห็นอะไรเลย
ผมเดินจูงให้ยุ้นเดินด้านหน้าผม เอามือจับไม้เท้าด้วยกัน กวาดไปแล้วก็คอยบอกว่าเวลาเจอของขวางหน้า ส่วนมือขวาก็คลำตามผนังตามที่ไกด์ดลบอก ส่วนน้องนักเรียนก็เดินเรียงแถวตามเราเข้ามา น้องข้างหลังเอามือมาจับหลังผมไว้ด้วย เดินตามเข้ามา ทุกคนเหมือนพยายามจับกลุ่มกันไม่ให้หายไปไหน ทุกอย่างใช้สัมผัสด้วยหู เพราะเราเดินตามเสียงของไกด์ดลเข้าไป ส่วนสัมผัสมือก็ได้ใช้แล้วในตอนนี้ เราเดินเลียบกำแพงด้านขวาเข้าไปเรื่อยๆ จนกำแพงหมดไป ก็เดินวนยูเทิร์นเลี้ยว 360 องศา จากนั้นก็เดินต่อไปตามเสียงไกด์ดล จนกระทั่งกำแพงหักพาให้เลี้ยวซ้าย 90 องศา
น้องๆ: เฮ้ยรอด้วยๆ
ไกด์ดล: น้องวิชเข้ามายังครับ อยู่ไหนขานด้วยครับ
น้องวิช: วิชอยู่นี่
ไกด์ดล: โอเค ตอนนี้หยุดตรงนี้ก่อนครับ ข้างหน้าจะเป็นห้องๆหนึ่งเราจะพากันเข้าไปในห้องนี้นะครับ ค่อยๆเดินมาหาเสียงผมนะครับ
ผมพายุ้นเดินนำกลุ่มเข้าไปในห้องตามเสียงของไกด์ เลียบกำแพงเข้าไป รู้สึกปลอดภัยอย่างน้อยก็เดินตามกำแพงไป ทุกคนเข้ามาอยู่ในห้องมืดที่ว่า น้องวิชเข้ามาเป็นคนสุดท้ายพร้อมกับขานรับเสียงเรียกของไกด์ดล
ไกด์ดล: โอเคครับ ทีนี้ผมจะแนะนำให้รู้จักกับไกด์ที่จะพาพวกเราผจญไปในโลกมืด ชื่ออาร์มนะครับ ผมจะขอส่งทุกคนต่อให้ไกด์อาร์ม ณ ที่นี้เลยนะครับ ขอให้สนุกกับประสบการณ์ในห้องมืดนะครับ สวัสดีครับทุกคน
ว่าแล้วไกด์ดลก็เดินจากไปแบบเงียบๆ
ไกด์อาร์มตบมือสองสามครั้งเพื่อเรียกความสนใจจากพวกเรา: สวัสดีครับทุกๆคน ผมชื่ออาร์มครับ ผมจะเป็นไกด์ของพวกเราทุกคนในตลอดเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนี้นะครับ ตอนนี้ขอให้พวกเราเดินเลียบกำแพงไปอีกนะครับ เราจะเจอกับอะไรครับ
ผมก็พาน้องยุ้นเดินนำไปตามเสียง ไม้เท้าที่วาดด้านหน้าก็เหมือนกับจะชนกับอะไรทางด้านขวา วาดได้ไม่สุด ไปได้แต่ทางซ้าย ก็เลยย่อตัวลงไปจับดู นุ่มๆ ราบโค้ง เย็นๆ ระดับประมาณเข่า คลำไปเรื่อยๆลึกเข้าไปก็เจอว่ามันสุดแล้วก็หักมุมขึ้นไปข้างบน รู้แล้ว โซฟา
พ่อ: เจอโซฟาครับ
ไกด์อาร์ม: โอเค มีคนเจอโซฟาแล้วครับ ให้นั่งที่โซฟาเลยครับ ขยับมานั่งกันให้ครบทุกคนนะครับ
ผมก็นั่งแล้วก็ขยับมาจนรู้สึกว่าสุดปลายโซฟาแล้ว ให้น้องยุ้นนั่งตัก น้องๆนักเรียน ก็นั่งตามมาทุกคน
ไกด์อาร์ม: น้องวิช นั่งแล้วยังครับ
น้องวิช: นั่งแล้วค่ะ
ไกด์อาร์ม: โอเคครับ ที่นี้เรามาแนะนำตัวเองกันให้ผมรู้จักชื่อกันหน่อยดีกว่า เรามีกันกี่คนครับ
น้องๆ: 7 คนค่ะ
ไกด์อาร์ม: ครับ ขอแนะนำคนแรกเลยครับ
พ่อ: จตุพร กับ น้องยุ้นครับ เป็นพ่อกับลูกครับ
ไกด์อาร์ม: น้องไรนะครับ น้องยุ่นเหรอครับ โอเค ผมเรียกคุณพ่อกับน้องยุ่นนะครับ คนต่อไปครับ
ไกด์อาร์มเหมือนกับเรียกชื่อน้องไม่ได้
น้องๆ: พลอยค่ะ จิ๊บค่ะ บีค่ะ พิมค่ะ วิชค่ะ
ไกด์อาร์ม: พลอย จิ๊บ บี พิม วิช โอเคครับ
ก่อนอื่น ผมขอแนะนำให้รู้จักกับ Dialogue in the Dark หน่อยนึงนะครับ มันคืออะไร มันก็คือนิทรรศการเชิงปฏิบัติ ที่เปิดโอกาสให้คนปกติมาเรียนรู้โลกของผู้พิการทางสายตา หลังจากทุกคนที่ผ่านประสบการณ์นี้ไป เราคาดหวังว่าทุกคนจะเข้าใจการใช้ชีวิตของผู้พิการทางสายตา ว่าเขาเหล่านั้นสามารถใช้ชีวิตอย่างไร มีความยากลำบากกว่าคนปกติทั่วไปอย่างไร เขาต้องปรับตัวอย่างไร Dialogue in the Dark มีขึ้นครั้งแรกในประเทศเยอรมัน ด้วยความริเริ่มโดยนาย Andreas Heinecke เมื่อเขาได้รับแนวความคิดที่จะให้คนเรียนรู้จากการพบเห็นด้วยตัวเอง ไม่เพียงแต่จากการบอกเล่าเท่านั้น หลังจากนั้นก็ได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วโลก ไปมากกว่า 30 ประเทศ 160 แห่ง กระจายไปทั่วทวีปอเมริกา ยุโรป ตะวันออกกลาง และ เอเชีย ที่นี่ก็เป็นแห่งหนึ่งและแห่งเดียวในประเทศไทย
ไกด์อาร์มได้เล่าเรื่องราวพอเป็นสังเขปให้กับพวกเรานักท่องเที่ยวในดินแดนผู้พิการทางสายตาฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ
ไกด์อาร์ม: พวกเรารู้มั้ยครับว่าห้องนี้คือห้องอะไร
น้องพลอย: ห้องนั่งเล่น
น้องจิ๊บ: ห้องรับแขก
ไกด์อาร์ม: ครับ เก่งมาก ห้องแรกของบ้านที่ผมพามาก็ควรจะเป็นห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่น เราเพิ่งเดินเข้าบ้านของผู้พิการทางสายตามาสักครู่นี้เอง
ต่อจากนั้น ไกด์อาร์มก็บอกให้เราลุกขึ้น แล้วก็เดินตามเสียงไกด์ไปตามกำแพงอีกเช่นเดิม ชิดขวา ได้ยินเสียงนกร้องดังมาไกลๆ เดินต่อไปก็ได้ยินเสียงน้ำ ไกด์บอกให้เราสังเกตจากการฟัง คอยถามว่าได้ยินเสียงอะไรบ้าง รู้สึกยังไงกับพื้น นุ่ม ขรุขระ หรือ แข็ง เดินต่อไปผมรู้สึกว่ากำแพงหายไปแล้ว ตอนนี้เหมือนอยู่ในโลกมืดไปไม่ถูก จนกระทั่งได้ยินเสียงไกด์อาร์มปรบมือ
ไกด์อาร์ม: เดินต่อมาเรื่อยๆครับ มาตามเสียงของผม ไม่ทราบเจออะไรบ้างหรือเปล่าครับคุณพ่อ
น้องยุ่นเป็นไงครับ ไม่กลัวนะครับ เก่งจริงๆ
น้องเงียบ แต่ก็ไม่ได้ร้องโวยวายว่ากลัว เท่านี้ผมว่าเขาก็กล้ามากแล้วครับ
ผมเดินต่อไปพาน้องยุ้นนำไปด้วย มือผมกุมมือน้องซึ่งกุมไม้เท้าอีกที กวาดไปด้านหน้า รู้สึกเหมือนมีขั้นบันได
ไกด์อาร์ม: ข้างหน้าจะมีสเต๊ปนะครับ ให้ก้าวขึ้นมาเลยครับ ถ้าเจอแล้ว
คุณพ่อ: เจอครับ เจอขั้นบันได น้องยุ้น เห็นมั้ย ไม้มันไปตีกับของข้างหน้า แสดงว่ามีอะไรอยู่ จิ้มๆดูสิ มันสูงขึ้นจากที่เรายืนอยู่ด้วย ค่อยๆก้าวไปที่ไม้จิ้มอยู่เลยนะ
น้องยุ้นดูเหมือนรับรู้ได้ ก็ก้าวนำผมไป ผมก็เดินก้าวตาม ส่วนมือขวาก็ควานหาของบางอย่างถ้ามี เหมือนหาหลักประกัน อย่างไรก็ยังไม่พร้อมที่จะเดินโดยไม่มีกำแพง น้องๆนักเรียนก็เดินเบียดๆตามกันมา พร้อมส่งเสียงไปตลอดทาง ถามว่าเจอไรบ้าง ชั้นเจอนี่ แกเจอเปล่า คุณพ่อเจอไรบ้างคะ ฯลฯ
ในที่สุดก็ผมก็เจอ ......... หลังจากควานหาอยู่ซักพัก เท้าก็รู้สึก ตัวก็โยกไปมาเล็กน้อย
ขอยืมภาพมาจาก http://www.travelpod.com/travel-photo/judeabrown/1/1278105833/a-hanging-bridge.jpg/tpod.html
*****************************************************************************(โปรดติดตามตอนต่อไป)
เจอราวสะพานรึป่าวครับ? (เดาจากภาพประกอบ)
ตอบลบอยากถามว่า ตลอดเวลาอยู่ในห้องมืดเราต้องลืมตาหรือหลับตาครับ
แล้วแต่ชอบครับ จะหลับหรือลืม เรารู้สึกสบายอย่างไรก็ทำอย่างนั้นเลย ของผมจะลืมตาครับ เพราะหลับตามันรู้สึกเหมือนหลับตาเดิน ถึงลืมตาไม่เห็นอะไรก็ตาม ผมก็หวังว่าถ้ามีแสงตรงไหน ก็เห็นได้เลยครับ
ตอบลบ