วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

Dialogue in the Dark - ใช้ชีวิตคนตาบอด ตอนที่ 4

เมื่อทุกคนขึ้นนั่งรถตุ๊กกันเรียบร้อยแล้ว
ไกด์อาร์ม: เดี๋ยวเราจะนั่งรถไปพารากอนเพื่อไปหาอะไรทานกันนะครับ ระหว่างรถวิ่งห้ามเอามือ ขา ศีรษะยื่นออกไปนอกตัวรถนะครับ ไม่งั้นเราคงจะไม่พิการทางสายตาอย่างเดียว
น้องยุ้น: ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ทุกคนหัวเราะตามน้องยุ้น น่าจะหัวเราะเสียงน้องยุ้นมากกว่า เพราะน้องหัวเราะแบบที่ตัวหนังสือเขียนจริงๆครับ ลองอ่านดูโดยไม่ต้องแปลงเสียงเลยครับ

หลังจากเตือนเราเรียบร้อย ไกด์อาร์มก็ตะโกน: โชวเฟอร์ ออกรถเลย
รถก็สตาร์ท แล้วก็เริ่มรู้สึกว่ามันสั่น รถออกตัวไปอย่างรวดเร็ว เรารู้สึกถึงลมเย็นพัดใส่หน้าของเรา ไกด์อาร์มก็บรรยายขณะที่รถวิ่งไปเรื่อยๆ

ไกด์อาร์ม: ซิ่งเลยโชว์เฟอร์ เรากำลังแซงรถเมล์ หักขวา ตบเข้าซ้าย เอี๊ยด ไอ้รถเมล์ขับภาษาไรเนี่ย เดี๋ยวตายกันหมดพอดี ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องตกใจ โชว์เฟอร์เราประสบการณ์ ไม่แพ้ชาติใดในโลก เพิ่งได้ใบขับขี่มาสดๆร้อนๆเมื่อวานครับ
น้องยุ้น: ฮ่า ฮ่า ฮ่า
หากเห็นหน้าทุกคนยกเว้นน้องยุ้นตอนนี้ คงจะหน้าซีดเผือก ทุกคนเงียบกริบ ไม่พูดไม่จา มือกุมราวจับของรถตุ๊กๆแน่น
ไกด์อาร์ม: ต่อเลยพี่โชว์เฟอร์ เดี๋ยวเราจะไปไม่ทัน มีเวลาพักทานของว่างน้อยไป โอ๋ย พี่ๆ ไฟเหลืองแล้ว จะทันมั้ยเนี่ย
แล้วรถก็เหมือนกับเอียงซ้าย เอียงขวาตลอด ทำให้รู้สึกว่าวิ่งไม่บันยะบันยัง รถเร่งเครื่องเพื่อจะให้พ้นไฟแดง

สักพักหนึ่ง เรารู้สึกว่ามีละอองน้ำปลิวมากระทบใบหน้า และลำตัว ฝนตก ผมกอดน้องยุ้นไว้เพื่อไม่ให้น้องโดนละอองน้ำฝน รถวิ่งต่อไปยังไม่หยุด พร้อมกับคำบรรยายเสี่ยงตายของไกด์อาร์ม ช่างเป็นการนั่งรถที่เสี่ยงตายที่สุดเท่าที่เคยนั่งมา ถ้าไม่นับรถเมล์สาย 8 นะครับ ถ้าใครเคยนั่งคงจะรู้ความหมายของผม หลังจากหวาดเสียวกับการนั่งรถสักพัก รถก็จอดลง เสียงถอนหายใจเฮือกก็ดังขึ้น พร้อมกับเสียงตะโกนของไกด์อาร์ม

ไกด์อาร์ม: ขอบคุณมากพี่โชว์เฟอร์ โอเคครับ เรามาถึงแล้วครับ เดี๋ยวทุกคนค่อยๆลงจากรถทางด้านซ้ายนะครับ พอลงแล้วก็ชิดขวาครับ หันหน้ามาทางเสียงผม แล้วเดินมาหาเสียงผมนะครับ หวังว่าทุกคนคงสนุกกับการนั่งรถเที่ยวของเรานะครับ
น้องยุ้น: ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ทุกคนก็หัวเราะตาม คงหัวเราะเสียงหัวเราะน้องยุ้น ไม่ได้ขำไกด์อาร์มหรอกนะครับ
อย่างน้อยก็มีหนึ่งคนที่สนุกกับการผจญภัยครั้งนี้
ผู้อ่านอย่าเพิ่งตกใจครับ ไม่น่ากลัวอย่างที่ผมเล่าหรอก ผมก็แค่ตีไข่ใส่สีให้มันพอมีสีสันเท่านั้นเอง จริงๆแล้วสนุกมากครับ อยากให้ไปลอง เหมือนเที่ยวสวนสนุกของคนพิการทางสายตายังไงยังงั้นเลย
ฮ่า ฮ่า ฮ่า (ขอยืมเสียงหัวเราะน้องยุ้นเขามาหน่อย)

จากนั้นไกด์อาร์มก็พาเราเดินเลาะไปตามทาง เราเริ่มคุ้นเคยกับการเดินเลียบกำแพงซะแล้ว ไม่ค่อยจะเดินชนกันไปชนกันมาซักเท่าไหร่

ไกด์อาร์ม: โอ๊ย ใครเนี่ย ผมบอกให้ชิดซ้ายไว้ไงครับ ทำไมเดินทางขวาหละ อย่างนี้ก็แย่สิ
ไกด์อาร์มดุน้องคนหนึ่ง ที่เดินแตกแถวออกมาทางขวา
ไกด์อาร์ม: ไม่สังเกตเหรอครับ ว่าทำไมผมให้ชิดซ้ายหรือชิดขวา เพราะผมจะได้รู้ว่าทุกคนอยู่ทางไหน แล้วผมก็จะเดินไปอีกฝั่งหนึ่งได้ตลอด โดยไม่ชนใครเข้า ทีนี้เข้าใจแล้วนะครับ คนพิการทางสายตาต้องรู้ว่าอะไรอยู่ที่ไหน แต่รู้ได้โดยการจัดระเบียบครับ ไม่ได้รู้โดยการใช้สายตา

แล้วทุกคนก็ถึงบางอ้อ หลังจากถูกไกด์อาร์มดุเล็กน้อย ฮ่า ฮ่า ฮ่า ผมหัวเราะเองในใจ
ไกด์อาร์มพาพวกเราเดินเข้าห้องๆหนึ่ง แล้วพาไปหยุดลงที่หน้าเคาเตอร์ เหมือนกับเป็นเคาเตอร์บาร์ ผมจินตนาการว่าอย่างนั้น
ไกด์อาร์ม: เอาหละครับ เราจะมาหาอะไรทานกันนะครับ ผมจะแนะนำให้รู้จักกับ พี่ขวัญเจ้าของร้านนะครับ
พี่ขวัญ: สวัสดีครับ
ทุกคน: สวัสดีค่ะ สวัสดีครับ
พี่ขวัญ: ผมมีขนมกับน้ำขายครับ ก็มี ป๊อกกี่ โอลีโอ ซูกัส ฟิชโช่ น้ำส้ม น้ำโค๊ก สไปร์ท
พี่ขวัญร่ายยาวถึงรายการขนมกับเครื่องดืมพร้อมระบุราคา พวกเราก็ล้วงกระเป๋าเอาเงินออกมา พี่ขวัญรับออร์เดอร์ทีละคน ทีละคน พร้อมหยิบของให้และรับเงิน แจ้งให้เราทราบว่ารับธนบัตรอะไรไป ทอนเงินให้เรา ทุกอย่างที่ทำไป พี่ขวัญทำได้อย่างคล่องแคล่ว ไม่ได้มีความรู้สึกว่าพี่ขวัญมองไม่เห็นเลย แต่ถึงแม้พี่ขวัญจะตาดี แกก็ไม่น่าจะมองเห็นเพราะพวกเราก็ตาดีๆก็ยังมองอะไรไม่เห็นนี่ พี่ขวัญทำได้อย่างไรกัน

ขอยืมภาพจาก http://precious-living.com/spot-the-celebrity/

เมื่อได้รับของทานแล้ว ไกด์อาร์มก็พาพวกเราเดินมานั่งที่โซฟา และทุกคนก็แกะขนมออกทานกัน แบ่งกันทาน และคุยกันไป
ไกด์อาร์ม: โอเคครับ ห้องนี้จะเป็นห้องสุดท้ายของ Dialogue in the Dark นะครับ เราจะนั่งคุยกันซักพัก เพื่อแชร์ประสบการณ์ของแต่ละคนว่ารู้สึกกันอย่างไร และถ้าใครอยากจะถามคำถามอะไรผมก็สามารถถามได้ครับ ทุกคำถาม ผมจะตอบทุกอย่างครับ

น้องจิ๊บ: พี่อาร์มตามองเห็นหรือเปล่าคะ
ไกด์อาร์ม: โปรดติดตามตอนต่อไป ตอนสุดท้ายแล้วครับ ฮ่า ฮ่า ฮ่า คงไม่เบื่อก่อนนะครับ

*********************************************************************************

4 ความคิดเห็น:

  1. เห็นด้วยๆครับ รถเมล์สาย 8 สุดยอดแห่งความหวาดเสียวจริงๆ 555
    เคยนั่งจากคลองถมไปสะพานพุทธ ระยะทางใกล้ๆเค้ายังทำให้เราเสียวได้ ไม่ธรรมดา

    ขนมกับน้ำในนั้นราคาเป็นไงครับพี่จะ คงไม่แพงเหมือนหน้าโรงหนังเมเจอร์นะ 555

    ตอบลบ
  2. ก็แพงกว่าข้างนอกครับ แต่ก็รับได้ เช่น โอลีโอ ซองละ 10 บาท ป๊อกกี้ 15 หรือ 20 บาทไม่แน่ใจ คงเป็นรายได้เสริมมั้งครับ

    ตอบลบ
  3. เราเลือกรสชาติของป๊อกกี้ได้มั้ยครับ อยากรู้ว่าคนขายเค้ารู้ได้ไงครับว่าป๊อกกี้รสช็อกโกแลตหรือสตรอเบอร์รี่ ผมขี้สงสัยน่ะครับ 555

    ตอบลบ
  4. ขี้สงสัยอย่างนี้ ต้องไปลองเองเลย 555

    ตอบลบ